Lee หนุ่มปากีสถานวัย 24 ปีได้เข้ารับการตรวจร่างกายและพบว่าตนเองมีเนื้องอกต่อมไทมัสในปี 2016 เขารีบเข้ารับการรักษาด้วยการเข้ารับคีโมทันทีที่โรงพยาบาลในประเทศ เวลาผ่านไปครึ่งปีอาการของเขากลับไม่ดีขึ้น ก้อนเนื้อโตขึ้นในทุกๆวัน จนทำให้เขาหมดกำลังใจและความมั่นใจในการรักษา เขาตัดสินใจรักษาโดยการรับประทานยาสมุนไพรจีนแทน แต่ยิ่งเวลาผ่านไปก้อนเนื้อของเขากลับโตขึ้นเรื่อยๆ จนส่งผลกระทบกับการดำเนินชีวิตประจำวันของเขา

　　เมื่อเร็วๆนี้ หลังจากได้เข้ารับการรักษาโดย นพ. เหลี่ยงปิง นพ. หลิวซู่เผิ่ง รวมถึงทีมแพทย์คนอื่นๆ แขนที่บวมของเขานั้นกลับมาเป็นปกติ ก้อนเนื้อมีขนาดเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด หนุ่มชาวปากีสถานดีใจจนชมทีมแพทย์ที่ทำการรักษาให้เขาไม่หยุด

　　คุณ Lee หนุ่มมหาลัยชาวปากีสถานวัย 24 ปี ครอบครัวของเขานั้นตั้งความหวังไว้กับเขาสูงมาก ในปีนั้นเขาเข้ารับการตรวจร่างกายและพบว่าตนเองเป็นเนื้องอกต่อมไทมัส เขาเข้ารับการรักษาทันทีด้วยความสนับสนุนของครอบครัว โรงพยาบาลในประเทศได้ให้การรักษาด้วยคีโมกับเขา หลังจากผ่านไปครึ่งปีก้อนเนื้อกลับโตขึ้นจนทำให้เขาหมดความเชื่อใจในการรักษาที่โรงพยาบาลในประเทศและตัดสินใจรักษาด้วยการรับประทานยาสมุนไพรจีน แต่อาการกลับแย่ลงเรื่อยๆ ครอบครัวของเขาจึงเริ่มค้นหาแนวทางการรักษาอื่นๆ และเขาค้นพบว่าโรงพยาบาลมะเร็งฟูด้า กว่างโจวนั้นมีเทคนิคการรักษาที่ทันสมัย ในที่สุดคุณ Lee กับครอบครัวของเขาก็ตัดสินใจเดินทางมารักษาที่กว่างโจว

　　หลังจากเข้าปรึกษากับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และเข้ารับการตรวจ MRI พบว่าอาการของคุณ Lee อยู่ในระยะสุดท้าย และมีการแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองบริเวณคอ ประจันอก รวมถึงบริเวณปอดหลายจุด เนื่องจากมะเร็งได้แพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองบริเวณประจันอกเมื่อต่อมน้ำเหลืองโตจนไปเบียดหลอดอาหารจนทำให้แขนของเขาบวม นพ. หลิวซู่เผิ่งกล่าวว่า “มะเร็งต่อมไทมัสที่แพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองบริเวณประจันอกมีความร้ายแรงสูง ทำให้คนไข้มีโอกาสเข้ารับการผ่าตัดน้อย และมะเร็งชนิดนี้ตอบสนองต่อยาคีโมค่อนข้างต่ำ มีเพียงแค่การรักษาเฉพาะจุดเท่านั้นที่จะช่วยยืดอายุของผู้ป่วยได้” เนื่องจากก้อนเนื้อตรงบริเวณประจันอกนั้นอยู่ในตำแหน่งสำคัญ และก้อนเนื้อหลายจุดเป็นก้อนเนื้อร้ายทำให้การผ่าตัดกำจัดก้อนเนื้อนั้นเป็นไปได้ค่อนข้างยาก ต่อให้การรักษาด้วยคีโม การฉายแสงแบบทั่วไป คลื่นแกมม่า หรือมีด X นั้นจะใช้ในการรักษาได้ แต่จะทำให้เกิดผลข้างเคียงค่อนข้างสูงเช่นการแพร่กระจายของรังสีที่ทำให้เกิดภาวะหัวใจอักเสบ หลอดเลือดอักเสบ ปอดอักเสบ หลอดอาหารอักเสบซึ่งมีผลกระทบต่อร่างกายค่อนข้างสูงทำให้มีอันตรายต่อชีวิต และยังมีโอกาสกลับมาเป็นเกิดซ้ำของโรคสูง คนไข้หลายรายจึงปฎิเสธการรักษาข้างต้น

　　การรักษาด้วยการสลายเนื้องอกเฉพาะจุดบริเวณประจันอกนั้นค่อนข้างหลากหลาย หลังจากผ่านการวินิจฉัย ทีมแพทย์ได้เลือกการรักษาด้วยความเย็นและการฝังแร่ในการรักษาคุณ Lee เนื่องจากเนื้องอกต่อมไทมัสมีการแพร่กระจายยังต่อมน้ำเหลืองประจันอก และอยู่ใกล้กับเส้นเลือดใหญ่และเส้นประสาท ไม่มีช่องทางให้ทำการสลายได้อย่างเพียงพอ เสี่ยงต่อการเกิดอันตราย และอยู่ใกล้กับเส้นประสาทแขนทำให้การใช้วิธีการฝังแร่จะปลอดภัยมากกว่า นอกจากนั้นการฝังแร่ยังสามารถครอบคลุมไปยังก้อนเนื้อที่ทำการสลายด้วยความเย็นไม่ถึงได้ด้วย และไม่ทำร้ายเส้นประสาทของคนไข้ เนื่องจาก้อนเนื้อมีขนาดใหญ่จึงต้องเข้ารับการรักษาด้วยความเย็นสองครั้ง การรักษาด้วยความเย็นเป็นการรักษาแบบบาดแผลเล็กที่ค่อนข้างปลอดภัย แทบจะไม่ส่งผลกระทบต่อเส้นเลือดใหญ่ หลอดลม หลอดอาหาร และกระเพาะอาหารเลย

　　“พวกเรามีประสบการณ์ด้านการสลายเนื้องอกบริเวณประจันอกมาอย่างมากมาย เมื่อสิบกว่าปีที่แล้วก็มีคนไข้ที่ใช้วิธีการรักษาอย่างนี้เช่นกัน ปัจจุบันก็ยังมีชีวิตอยู่ การใช้ความเย็นในการสลายเนื้องอกต่อมไทมัสนั้นมีสิถิติผู้รอดชีวิตอยู่มากมาย พวกเราได้ตีพิมพ์บทความเกี่ยวกับการรักษามาแล้วมากมาย เคยมีคนไข้ปฎิเสธการรักษาจากโรงพยาบาลในประเทศตนเอง และเดินทางมารับการรักษาที่ฟูด้าและได้ผลดีมากมาย” นพ. เหลียงปิงกล่าวแนะนำ

　　หลังจากการรักษา เนื้องอกของคุณ Lee มีขนาดเล็กลงอย่างชัดเจน หลังจากผ่านไปสามเดือนอาการของเขาก็กลับมาเป็นปกติ การใช้ชีวิตประจำวันของเขาก็กลับมาเป็นปกติ เวลาที่มีคนเข้าไปเยี่ยมเขา เขาจะยกมือทักทายทุกคนอย่างยิ้มแย้ม คุณพ่อของคุณ Lee นั้นมีความสุขมาก เขากล่าวว่า “ได้เห็น Lee อาการดีขึ้น มีความสุขขึ้นผมรู้สึกมีความสุขมาก การเลือกเดินทางมารักษาที่ประเทศจีนนั้นเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับพวกเรา ผมรู้สึกขอบคุณคุณหมอคนจีนทุกท่านมาก”