สาวน้อยเล่าเรื่องการรับการรักษา อยู่ร่วมกับมะเร็งไม่ใช่ฝัน
มะเร็งตับอ่อน
Author:FUDA
From:เช้าวันที่3 มิถุนายน ที่ปักกิ่ง ศจ.นพ.ฉีว เค่อ เฉิง ได้จัดงานเปิดตัวหนังสือใหม่มีชื่อ อยู่ร่วมกับมะเร็ง มีสาวน้อยคนหนึงเป็นที่สะดุดตาของผู้คน แขกที่มาร่วมงานไม่คิดว่าเธอเป็นผู้ป่วยมะเร็ง เธอมีชื่อว่าเสี่ยว ฟุ้ง ปีนี้อายุ18ปี เธอป่วยด้วยโรคมะเร็งตับอ่อนที่พบน้อย และได้แพร่กระจายไปที่ตับหลายจุด 6ปีก่อนเธอได้ผ่าตัดมะเร็งส่วนปลายตับอ่อนเรียบร้อยแล้ว 3ปีต่อมาได้เป็นซ้ำอีก จากCT และอัลตราซาวนด์พบว่ามีการแพร่กระจายไปที่ตับ จึงได้มารับการดูแลที่โรงพยาบาลดูแลมะเร็งฟูด้า หลังจากทำการดูแลผสมผสานแล้ว สามารถควบคุมมะเร็งได้ เสี่ยว ฟุ้งกล่าวในงานอย่างซาบซึ้งใจว่า “ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนพ.ฉีว เค่อ เฉิงเป็นผู้ที่มีพระคุณต่อดิฉันมาก ดิฉันขอขอบคุณท่านมาก ท่านเปรียบเหมือนคุณปู่ของดิฉัน อัธยาศัยดีน่ารัก”


เสี่ยว ฟุ้ง เป็นคนมณฑลกวางตุ้งอำเภอไหวยจี่ อยู่ในเขตเขาฐานะยากจน พ่อแม่เป็นชาวนา รายได้หลักของครอบครัวได้มาจากปลูกต้นส้ม ฤดูหนาวของทุกปี พ่อแม่ของเธอจะเริ่มไปทำงานที่ไร่ส้มต้องขึ้นลงเขา เธอมีพี่น้อง5คน พี่ชาย1คนพี่สาว1คน น้องชาย2คน พี่ชายเธอทำงานอยู่ที่โรงงานเขตเฟ่อซาน พี่สาวปีนี้เรียนอยู่มอ6 ส่วนน้องชายเธอทั้งสองยังอยู่ชั้นประถม
สองปีที่แล้ว ตอนที่เธอมีอายุเพียง16 ปี“ตอนนั้นตรวจพบว่ามะเร็งกลับเป็นซ้ำ มีการกระจายที่ตับหลายจุด เกือบจนทั่วตับ เกล็ดเลือดลดลงเหลือแค่หนึ่งหมื่น ทั้งร่างกายมีเลือดออก และในตอนนั้น ผู้เชี่ยวชาญของโรงพยาบาลดูแลมะเร็งฟูด้ากว่างโจวหลายท่านปรึกษาหารือกัน และคาดการณ์ว่าดิฉันคงสามารถเสียชีวิตได้ตลอดเวลา การรับการดูแลต่อไปคงต้องเสียค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ที่บ้านดิฉันก็ไม่มีเงินที่จะเข้ารับการดูแลแล้ว พ่อพาฉันออกจากโรงพยาบาล กลับถึงบ้าน ดิฉันไม่ได้เรียนหนังสือ ซุกอยู่บ้านวันแล้ววันเล่า หมดหวังแล้ว….” เสี่ยว ฟุ้งพูดทั้งน้ำตา
“หลังจากที่ ศจ นพฉีว เค่อ เฉิงได้ทราบข่าว พาแพทย์นั่งรถระยะทางประมาณ 200 กีโลเมตร มาหาดิฉันที่บ้าน พาดิฉันกลับไปที่โรงพยาบาล และรับการดูแลดิฉันโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ช่วงที่รับการดูแลนั้นท่านตามให้กำลังใจดิฉันเสมอว่าให้เชื่อใจ สุดท้าย คณะแพทย์ได้ช่วยชีวิตดิฉันไว้ คือคณะแพทย์ของโรงพยาบาลฟูด้า คือศจ ศจ.นพ.ฉีว เค่อ เฉิง ที่ให้ชีวิตใหม่กับดิฉัน”เสี่ยว ฟุ้ง พูดด้วยใจขอบพระคุณ
เสี่ยว ฟุ้งได้มีโอกาสนั่งเครื่องบินไปถึงปักกิ่งศจ.นพ.ฉีว เค่อ เฉิง ตามที่ฝัน เธอตื่นเต้นดีใจมาก บ่ายวันที่3 มิถุนายน ถึงสนามบินเทียน อัน เมิน เธอเหมือนเด็กทั่วไป กระโดดโลดเต้นดีใจมาก เธอเคยฝันอยากมาเที่ยวที่นี่ และวันนี้ความฝันเธอก็เป็นจริง เธอหยิบเอาโทรศัพท์มาถ่ายรูปเก็บเป็นที่ระลึกไม่หยุดหย่อน


ตอนนี้เสี่ยว ฟุ้งก็ได้ศึกษาต่อระดับมัธยมปลาย เพราะว่าเธอหยุดเรียนมาสองปี วิทยาศาสตร์เป็นวิชาที่ยากสำหรับเธอ แต่วิชาภาษาอังกฤษเธอไม่เคยเป็นรองใครในห้อง เธอหวังว่าสามารถสอบเข้ามหาลัย และความฝันเธอคืออยากเป็นนักแปลภาษาอังกฤษ
พูดถึงเรื่องการเรียน เธอก็คิดถึงพี่ชายและพี่สาวเธอ “พี่ชายดิฉันตั้งใจเรียนตั้งแต่เด็ก ผลการเรียนก็ดีเยี่ยม บทความที่เขาเขียนคุณครูก็นำไปเป็นแบบอย่างให้กับเพื่อนร่วมชั้นเสมอ แต่ เพื่อดูแลดิฉัน ลดค่าใช้จ่ายที่บ้าน เขาขอลาออกไปหาทำงานที่เฟ่อซาน ใช้เงินอย่างประหยัด พอเงินเดือนออกก็ส่งกลับมาที่บ้าน เพื่อดูแลดิฉัน หนูขอโทษพี่ชาย” เสี่ยว ฟุ้งพูดอีกว่า “ช่วงนี้พี่สาวอยู่ในระหว่างสอบมธัยมปลาย ขอให้พี่สาวสอบเข้ามหาลัยที่หวังไว้”
นอกจากรักการเรียน เสี่ยว ฟุ้งยังชอบเต้นรำอีกด้วย ก่อนที่เธอจะป่วยด้วยโรคมะเร็ง เธอไม่เคยขาดเรียนวิชาเต้นรำ พอได้ยินเสียงเพลงก็เต้นตามเพลงเสมอ และยังจินตานาการว่าตัวเองกำลังเต้นอยู่บนเวที “สองปีที่แล้ว โรคนี้ได้ทำลายความฝันของดิฉัน ตอนนั้นดิฉันรู้สึกว่าการเต้นรำหนีห่างไกลจากดิฉันมาก แต่ว่าตอนนี้ ดิฉันก็สามารถกลับเต้นได้อีกครั้ง” เสี่ยว ฟุ้งพูดอย่างมีความสุข
เธอชอบเล่นบาสเก็ตบาลมาก เล่นมาตั้งแต่เด็ก “ถ้าวันไหนไม่ได้เล่น ดิฉันก็จะรู้สึกไม่สบายใจ ดิฉันคิดว่าที่ดิฉันสูงได้160เซ็นติเมตรก็เพราะดิฉันเล่นบาสเก็ตบาล”
วันนี้เธอเต็มเปี่ยมด้วยชีวิตชีวา เต็มเปี่ยมด้วยความใฝ่ฝัน สามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุข นี้อาจจะเป็นเพราะเซลล์ร่างกายที่ปกติกับเซลล์มะเร็งอยู่ด้วยกันอย่างสงบ เธอหวังว่าผู้ป่วยมะเร็งท่านอื่นก็สามารถเหมือนเธอ อย่าสูญสิ้นความเชื่อมั่น สิ้นหวังเพราะว่าเป็นมะเร็ง เธอยิ้มแล้วพูดว่า “การอยู่ร่วมกับมะเร็งไม่ใช่ฝัน”
-
การรักษาด้วยความเย็น (Cryosurgical Ablation, CSA)...
-
ศ.นพ.สวีเค่อเฉิง...
การรักษาด้วยการให้ยาผ่านทางเส้นเลือด
การรักษาด้วยความเย็น (Cryosurgical Ablation, CSA)
การรักษาด้วยมีดนาโน (IRE)
การรักษาด้วยคลื่นไมโครเวฟ
การรักษาด้วยคีโมร้อนบริเวณช่องท้อง
การรักษาด้วยแสงจำเพาะ (Photodynamic Therapy, PDT)
การรักษาโดยสร้างภูมิคุ้มกันแบบองค์รวม
-
โรงพยาบาลมะเร็งเฉพาะทางแห่งชาติ
-
โรงพยาบาลมะเร็งที่ได้รับรองมาตรฐาน JCI ระดับนานาชาติ
-
ศูนย์ฝึกอบรมการรักษาด้วยความเย็นแห่งเอเชีย
-
ศูนย์ชีวการแพทย์กว่างโจวสถาบันวิทยาศาสตร์จีนและเวชศาสตร์ปริวรรตสถาบันสุขภาพ