รับชมวิดิโอเพิ่มเติม： https://youtube.com/shorts/tc34yzvMPAQ

　　"ตอนนี้ดิฉันสามารถเดินทางได้อย่างไร้กังวล กินอิ่ม นอนหลับ และแค่ไปตรวจสุขภาพตามปกติ" คุณวารินกล่าว เธอได้รับผลตรวจที่น่ามั่นใจอีกครั้งว่าไม่มีสัญญาณของการกลับมาของมะเร็งหรือการแพร่กระจายของมะเร็ง เธอรู้สึกมีความสุขท่วมท้นไปด้วยอารมณ์ เพราะตลอดเกือบสิบปีที่ผ่านมา เธอได้ต่อสู้กับโรคมะเร็งมาโดยตลอด

　　เลือดประจำเดือนผิดปกตินำไปสู่การวินิจฉัยที่น่าตกใจ

　　คุณวาริน หญิงชาวไทย เคยใช้ชีวิตอย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จเสมอมา ด้วยความพยายามของเธอเอง เธอสามารถมีบ้าน มีรถ และทุกสิ่งที่เธอเคยใฝ่ฝัน แต่แล้วชีวิตที่เคยสงบสุขกลับต้องสะดุดลงอย่างกะทันหัน เมื่อเธอได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งปากมดลูก ข่าวร้ายที่เหมือนสายฟ้าฟาดกลางใจ

　　เมื่อต้นเดือนเมษายน ปี 2016 คุณวารินมีอาการตกเลือดทางช่องคลอดผิดปกติ ในตอนแรกเธอเข้าใจว่าเป็นเพียงประจำเดือนตามปกติ แต่เมื่ออาการเดียวกันเกิดขึ้นซ้ำภายในเดือนเดียวกัน เธอเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติ เธอจึงรีบไปโรงพยาบาลใกล้บ้าน และที่นั่นเองแพทย์ได้ยืนยันข่าวที่น่าตกใจว่าเธอเป็นมะเร็งปากมดลูก

　　สำหรับคุณวาริน การได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเปรียบเสมือนการได้รับโทษประหารชีวิต เธอและสามีตระเวนเข้ารับการรักษาตามโรงพยาบาลหลายแห่งทั่วประเทศไทย โดยใช้เงินจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่เคยได้รับแผนการรักษาที่ชัดเจน และมักต้องรอเป็นเวลาหลายเดือนกว่าจะได้เริ่มต้นการรักษา ช่วงเวลาการรอคอยที่เต็มไปด้วยความทุกข์ทรมาน ความกังวล และความสิ้นหวัง

　　ต่อมา เธอได้ยินเรื่องราวของหญิงวัย 72 ปีคนหนึ่งในประเทศไทย ซึ่งใช้เงินจำนวนมหาศาลไปกับการทำรังสีรักษากว่า 100 ครั้งเพื่อรักษามะเร็งปากมดลูก แต่สุดท้ายกลับได้รับการบอกกล่าวว่ามีชีวิตเหลืออยู่เพียง 6 เดือนเท่านั้น อย่างไรก็ตาม หลังจากที่หญิงผู้นั้นเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลมะเร็งฟูด้าในเมืองกวางโจว ประเทศจีน เธอกลับมามีสุขภาพแข็งแรงอีกครั้ง

　　เรื่องราวนี้สร้างความหวังให้คุณวารินเป็นอย่างมาก เธอจึงติดต่อสำนักงานของโรงพยาบาลมะเร็งฟูด้าในประเทศไทยทันที “แพทย์บอกกับฉันว่ามะเร็งของฉันยังไม่แพร่กระจาย นั่นหมายความว่าฉันมีโอกาสรักษาหายสูงมาก”สำหรับคุณวาริน สถานที่ตั้งของโรงพยาบาลไม่ใช่ปัญหา สิ่งเดียวที่สำคัญคือโอกาสในการมีชีวิตรอด ไม่ว่าเธอจะต้องไปไกลแค่ไหนก็ตาม

　　ในช่วงปลายเดือนเมษายน ปี 2016 คุณวารินเดินทางไปยังโรงพยาบาลมะเร็งฟูด้าในเมืองกวางโจว เพื่อเข้ารับการรักษาอย่างจริงจัง

　　การรักษาเฉพาะบุคคล： การรักษาด้วยคีโมและการรักษาด้วยการฉายแสง

　　เมื่อเดินทางถึงประเทศจีน คุณวารินรู้สึกกังวลอย่างมาก ไม่เพียงเพราะอาการป่วยของเธอเท่านั้น แต่ยังรวมถึงอุปสรรคด้านภาษาอีกด้วย เพื่อช่วยให้เธอรู้สึกสบายใจโรงพยาบาลจึงจัดหาล่ามแปลภาษาไทยให้เธอโดยเฉพาะ ทีมแพทย์ทำการตรวจร่างกายอย่างละเอียด ศึกษาประวัติทางการแพทย์ของเธออย่างรอบคอบ และอธิบายแผนการรักษาโดยละเอียด พร้อมทั้งให้กำลังใจเธอและครอบครัว

　　“พบรอยโรคขนาดเล็กคล้ายดอกกะหล่ำที่ปากมดลูก และพบก้อนเนื้อร้ายบริเวณผนังปากมดลูกด้านหลังซ้าย ขนาดประมาณ 3.1 ซม. × 3.2 ซม.”  หลังจากการปรึกษาร่วมกันของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลายสาขา ทีมแพทย์ตัดสินใจใช้วิธีรักษาด้วยการรักษาด้วยคีโมควบคู่ไปการรักษาด้วยการฉายแสง

　　แผนการรักษาเฉพาะบุคคลที่ให้ผลลัพธ์อย่างยอดเยี่ยม

　　หลังจากได้รับการรักษา อาการตกเลือดทางช่องคลอดของคุณวารินหายไป

　　●   การตรวจติดตามผลสองเดือนต่อมา พบว่าเนื้อมะเร็งที่ปากมดลูกมีขนาดเล็กลงอย่างชัดเจน

　　●   หกเดือนหลังจากรับการรักษาด้วยการคีโมบำบัดและรังสีบำบัด ขนาดของก้อนเนื้อมะเร็งลดลงเหลือ 1.2 ซม. × 0.9 ซม.

　　●   หนึ่งปีต่อมา ผลการตรวจภาพถ่ายรังสีแสดงให้เห็นว่าเนื้อมะเร็งเดิมที่ปากมดลูกได้หายไป และไม่พบความผิดปกติในมดลูกหรือเนื้อเยื่อโดยรอบ

　　นอกจากนี้ คุณวารินยังได้รับการทำโอโซนบำบัดทางโลหิต (Ozone Autohemotherapy) เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันการกลับมาของมะเร็ง

　　การนัดตรวจติดตามอาการของเธอค่อยๆ ลดลงจากการตรวจทุกเดือน เป็นทุกสามเดือน จากนั้นเป็นทุกหกเดือน และในที่สุดเป็นการตรวจปีละครั้ง ปัจจุบัน ผลอัลตราซาวด์และ CT Scan ยืนยันว่าอาการของเธอยังคงทรงตัวและไม่พบสัญญาณของการกลับมาของมะเร็ง

　　มากกว่าความสัมพันธ์ระหว่างแพทย์กับผู้ป่วย แต่คือสายใยที่ผูกพันเสมือนครอบครัว

　　"ไม่มีใครคิดว่าฉันเป็นผู้ป่วยมะเร็ง" คุณวารินกล่าว “ไม่เหมือนกับผู้ป่วยมะเร็งรายอื่นในประเทศไทยที่ได้คีโมเคมีบำบัดและต้องเผชิญกับผลข้างเคียงอย่างการสูญเสียเส้นผม น้ำหนักลดลงอย่างมาก ผิวคล้ำ และร่างกายซูบผอม” คุณวารินรู้สึกโชคดีเป็นอย่างยิ่ง เธอแทบไม่พบผลข้างเคียงหรือภาวะแทรกซ้อนใดๆ พร้อมพูดติดตลกว่า“ฉันยังดูสวยอยู่เลย การรักษาไม่ได้ทำให้ฉันดูโทรมจนกลายเป็นผี”

　　ในการมาเยือนโรงพยาบาลครั้งนี้ เธอไม่ได้มาเพียงเพื่อตรวจติดตามผล แต่ยังมาเพื่อพบกับ "ครอบครัว" ของเธอที่โรงพยาบาลมะเร็งฟูด้าอีกครั้ง เมื่อถึงเวลาที่ต้องออกจากโรงพยาบาล คุณวารินยกมือไหว้ตามธรรมเนียมไทย โค้งศีรษะเล็กน้อย และกล่าวคำขอบคุณกับแพทย์และพยาบาลซ้ำๆ ด้วยความซาบซึ้งใจ “ขอบคุณค่ะ” นอกจากนี้ เธอยังมอบจดหมายแสดงความขอบคุณให้กับทีมแพทย์อีกด้วย

　　"ผู้ป่วยมะเร็งสิบคนที่เข้ารับการรักษาพร้อมกับฉันในประเทศไทย มีเพียงหนึ่งหรือสองคนเท่านั้นที่ยังมีชีวิตอยู่" วารินยังคงรู้สึกขอบคุณทีมแพทย์ของฟูด้าอย่างสุดซึ้ง ด้วยความเชี่ยวชาญของพวกเขา เธอจึงได้รับโอกาสในการใช้ชีวิตใหม่ ตลอดระยะเวลาเกือบสิบปีที่ผ่านมาเธอสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ กินของอร่อย และท่องเที่ยวอย่างอิสระ เธอรู้สึกโชคดีที่ได้พบกับบุคลากรทางการแพทย์ที่เปี่ยมไปด้วยเมตตา ความอดทน ความทุ่มเท และความใส่ใจอย่างแท้จริงที่ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน แม้จะอยู่ในต่างแดน แม้ว่าจะมีอุปสรรคทางภาษา แต่หัวใจของพวกเขากลับเชื่อมโยงถึงกันได้

　　"บางครั้งเพื่อรักษา บ่อยครั้งเพื่อช่วย และเสมอไปเพื่อปลอบโยน" วลีที่ไร้กาลเวลาและไร้พรมแดนนี้สะท้อนถึงแก่นแท้ของวิชาชีพแพทย์ และเป็นแนวทางให้แก่เหล่าแพทย์มาทุกยุคทุกสมัย ที่โรงพยาบาลฟูด้า ผู้ป่วยต่างให้กำลังใจกันและกัน แพทย์และผู้ป่วยต่างช่วยเยียวยาซึ่งกันและกัน ขณะที่บุคลากรทางการแพทย์ร่วมมือกันด้วยความจริงใจและความอบอุ่น พวกเขาร่วมกันเติมเต็มชีวิตของกันและกันให้สดใส ไม่ว่าจะอยู่ในฤดูกาลใด

　　สำหรับผู้ป่วยจากต่างประเทศที่ต้องเผชิญกับความท้าทายอย่างมากในการแสวงหาการรักษาพยาบาล การมอบความรู้สึกปลอดภัย ความสุข และความมั่นใจให้กับพวกเขา ไม่ใช่เพียงแค่หน้าที่เท่านั้น แต่ยังเป็นการสะท้อนถึงจิตวิญญาณที่แท้จริงของความเมตตาทางการแพทย์อีกด้วย

　　ประจำเดือนที่ "ผิดปกติ" อาจเป็นสัญญาณของมะเร็งปากมดลูก！

　　มะเร็งปากมดลูกมักส่งสัญญาณเตือนล่วงหน้า ซึ่งรวมถึง

　　●  ภาวะเลือดออกทางช่องคลอด

　　●  ในระยะเริ่มต้น มะเร็งปากมดลูกอาจทำให้เกิด ภาวะเลือดออกจากการสัมผัส ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ การตรวจภายในทางนรีเวช หรือหลังจากการขับถ่าย

　　●  ในระยะกลางถึงระยะลุกลาม อาจเกิด ภาวะตกเลือดผิดปกติ นอกเหนือจากรอบเดือนตามปกติ

　　●  ผู้ป่วยที่อายุน้อยอาจมี ประจำเดือนมานานกว่าปกติหรือมีเลือดออกมากผิดปกติ

　　●  สำหรับผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน อาจพบ เลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด

　　●  ตกขาวมากผิดปกติ

　　●  ผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกส่วนใหญ่มี ตกขาวเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจมีลักษณะเป็น มูกปนเลือด สีใสเหมือนน้ำข้าว หรือมีกลิ่นเหม็น

　　อาการที่รุนแรงขึ้นเมื่อโรคลุกลาม

　　เมื่อมะเร็งเข้าสู่ระยะลุกลาม อาการที่อาจพบ ได้แก่ ปัสสาวะบ่อย หรือปัสสาวะกะทันหัน ท้องผูก ขาบวม หรือมีอาการปวดบริเวณขาหนีบและขา หากพบอาการเหล่านี้ อย่ามองข้าม！ ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยโดยเร็ว

　　ปรึกษาโรคมะเร็ง

　　หากคุณต้องการทราบว่าผู้ป่วยเหมาะสำหรับการรักษาแบบบาดแผลเล็กหรือไม่ (การรักษาด้วยความเย็น  การรักษาด้วยมีดนาโน  การรักษาเฉพาะจุดแบบอุดตันเส้นเลือด ฯลฯ) และค่าใช้จ่ายในการรักษา  กรุณากรอกข้อมูลผู้ป่วย เพื่อรับคำแนะนำจากทีมแพทย์มะเร็งผู้เชี่ยวชาญของเรา

รับคำแนะนำจากแพทย์