เรื่องที่คนมักเข้าใจผิดเมื่อกล่าวถึงมะเร็งต่อมลูกหมาก
None
Author:FUDA
From:เรื่องที่คนมักเข้าใจผิดเมื่อกล่าวถึงมะเร็งต่อมลูกหมาก
จากผลการวิจัยทางการแพทย์แสดงให้เห็นว่าโรคเกี่ยวกับต่อมลูกหมากนั้นสร้างความกังวลทั้งทางร่างกายและจิตใจให้ผู้ป่วยเพศชายเป็นอย่างมาก ในบรรดาโรคเกี่ยวกับต่อมลูกหมากนั้น โรคมะเร็งต่อมลูกหมากคือโรคที่ทำให้เกิดเนื้องอกที่บริเวณต่อมลูกหมากของเพศชาย จากข้อมูลพบว่าสามารถพบผู้ป่วยโรคมะเร็งต่อมลูกหมากได้ 9.92 คน จากผู้คน100,000คน ซึ่งพบได้มากในกลุ่มประชากรเพศชายอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป และยังแสดงให้เห็นว่าผู้ชายที่อายุสูงขึ้นยิ่งมีโอกาสพบเจอโรคได้มากขึ้น จำนวนผู้ป่วยโรคมะเร็งต่อมลูกหมากในประเทศจีนนั้นอยู่ในอันดับที่ 6 จากบรรดาผู้ป่วยมะเร็งต่อมลูกหมากทั่วโลก มีผู้ป่วยที่ตรวจพบมะเร็งต่อมลูกหมากสูงถึง 60,000 คนในแต่ละปีและยังพบได้มากขึ้นตามประชาชนที่มีอายุสูงขึ้นเรื่อยๆ

ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าหากสามารถตรวจเจอโรคมะเร็งต่อมลูกหมากในระยะเริ่มต้นในขณะที่ก้อนเนื้อยังไม่มีการแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น จะช่วยเพิ่มอัตราการรอดชีวิต 5 ปีของผู้ป่วยได้มากกว่า 99เปอร์เซนต์ อย่างไรก็ตาม ส่วนมากแล้วเมื่อตรวจพบโรคมะเร็งต่อมลูกหมากมักจะพบว่าผู้ป่วยอยู่ในระยะกลางหรือระยะสุดท้ายแล้ว ซึ่งไม่เพียงแต่ยากต่อการรักษา อีกทั้งยังสร้างความเสียหายทางร่างกายอย่างมากให้กับคนไข้ ดังนั้นการเพิ่มความรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็งต่อมลูกหมากให้กับผู้คนจึงเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมาก
กลุ่มผู้เสี่ยง

กลุ่มคน: คนผิวสีมีโอกาสเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมากสูงถึง 60%
ประวัติในครอบครัว: หากผู้ป่วยมีประวัติคนในครอบครัว เช่น บิดา พี่ชายหรือน้องชายเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก มีโอกาสทำให้ผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมากมากกว่ากลุ่มคนที่ไม่มีประวัติในครอบครัวมากถึง 2 เท่า
อายุ: ในกลุ่มคนอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปจำนวน 15 คน สามารถพบผู้ป่วยมะเร็งต่อมลูกหมาก 1 คน
โภชนาการ: ร้บประทานอาหารที่มีกรดไขมันความอิ่มตัวสูงนอกจากจะทำให้อ้วน ยังเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมากอีกด้วย
ฮอร์โมนเพศชายสูง: ผู้ที่เคยเข้ารับการรักษาด้วยฮอร์โมนสามารถป่วยเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมากได้ง่ายกว่าคนทั่วไป
เซลล์ต่อมลูกหมากเกิดความผิดปกติ (Prostatic intraepithelial dysplasia): 50% ของผู้ชายที่มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไปสามารถตรวจพบ Prostatic intraepithelial neoplasia (PIN) ซึ่งก็คือเซลล์ที่มีความผิดปกติ
การเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม: ยีนส์บางชนิดมีความเกี่ยวข้องกับโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก เช่น BRCA1 และ BRCA2
ผู้ชายอายุมากกว่า 45 ปีและครอบครัวมีประวัติโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
- ผู้ชายอายุมากกว่า 50 ปี
- ผู้ชายอายุมากกว่า 40 ปีที่มีค่า PSA>1μg/L
อาการของโรคมะเร็งต่อมลูกหมากเป็นอย่างไร?

1、ผู้ป่วยส่วนมากจะไม่พบอาการเด่นชัดใดๆในระยะเริ่มต้น นอกจากในการตรวจร่างกายและพบว่าค่า PSA สูงกว่าปกติ หรือทำการตรวจต่อมลูกหมากผ่านทางรูทวารและพบว่าต่อมลูกหมากมีความผิดปกติ
2、เมื่อก้อนเนื้อมีขนาดใหญ่ขึ้น ผู้ป่วยจะเริ่มแสดงอาการด้านการปัสสาวะ เช่น ปัสสาวะบ่อย หรือมีอาการปัสสาวะเร่งรีบเป็นต้น
3、หากก้อนเนื้อไปเบียดอวัยวะส่วนอื่นเช่น กระเพาะปัสสาวะ หรือสำไล้ตรงเป็นต้น อาจทำให้เกิดอาการอื่นๆ เช่น ปัสสาวะ อุจจาระยาก ปวดที่บริเวณอวัยวะเพศหรือปัสสาวะเป็นเลือดเป็นต้น
4、หากมีการแพร่กระจายไปยังบริเวณต่อมน้ำเหลืองจะมีอาการบวมที่แขนขาด้านล่าง
5、ในระยะสุดท้ายที่มีการแพร่กระจายไปทั่วร่างกาย เช่นหากมีการแพร่กระจายไปยังบริเวณกระดูกจะทำให้เกิดอาการเจ็บปวด กระดูกแตกหัก หรือก้อนเนื้อไปเบียดกระดูกสันหลัง หากมีการแพร่กระจายไปยังปอดจะทำให้เกิดอาการไอและแน่นหน้าอก
6、นอกจากนี้ผู้ป่วยระยะสุดท้ายยังมีอาการโดยทั่วไปเช่น ไม่อยากอาหาร นอนไม่หลับ กระสับกระส่ายเป็นต้น ในกรณีรุนแรงอาจทำให้ผู้ป่วยเกิดภาวะโลหิตจางได้อีกด้วย
ความแต่งต่างระหว่างโรคต่อมลูกหมากโตและโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
โรคต่อมลูกหมากโตเป็นโรคที่พบได้ในผู้ป่วยชายวัยสูง ซึ่งเป็นลักษณะการเพิ่มตัวของจำนวนเซลล์สโตมัลและเซลล์เยื่อบุผิว ที่เป็นหนึ่งในสาเหตุของปัญหาทางเดินปัสสาวะอุดตันในผู้ป่วยสูงวัย เนื่องจากอาการดังกล่าวนั้นใกล้เคียงกับโรคมะเร็งต่อมลูกหมากระยะเริ่มต้น จึงทำให้เกิดการเข้าใจผิดในการวินิจฉัยโรคได้ ถ้าอย่างนั้นเราจะแยกแยะโรคต่อมลูกหมากโตกับโรคมะเร็งต่อมลูกหมากได้อย่างไร?
1、ตรวจค่ามะเร็งต่อมลูกหมาก (PSA)

PSA เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่หลั่งจากท่อเซลล์ต่อมลูกหมาก โรคต่อมลูกหมากโตและโรคมะเร็งต่อมลูกหมากนั้นจะทำให้ค่าPSA สูงขึ้น แต่ต่อมลูกหมากโตนั้นจะสูงขึ้นเพียงเล็กน้อย ถ้าหากสูงมากกว่า 10ng/ml และค่า FPSA สูงขึ้นจะพิจราณาเบื้องต้นว่ามีโอกาสเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก ซึ่งจะต้องเข้ารับการตรวจขั้นต่อไป
2、การตรวจต่อมลูกหมากผ่านทางรูทวาร

หากเป็นโรคต่อมลูกหมากโต เวลาที่คลำโดนจะมีลักษณะผิวเรียบเนียน หากเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมากก้อนเนื้อจะมีลักษณะแข็ง ไม่เรียบเนียน และผู้ป่วยจะมีอาการเจ็บ
3、ตรวจด้วยเครื่องถ่ายภาพ

ในตรวจอัลตราซาวน์ การตรวจด้วยเครื่อง CT หรือ MRI รูปภาพที่ออกมาจะพบว่าโรคต่อมลูกหมากโตและโรคมะเร็งต่อมลูกหมากนั้นมีลักษณะที่แตกต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น โรคต่อมลูกหมากโตจะมีการขยายตัวของเนื้อเยื่อที่ใหญ่ขึ้น คลื่นความถี่จะเสมอหรือไม่เสมอกัน แต่โรคมะเร็งต่อมลูกหมากนั้นจะมีคลื่นความถี่ที่ผิดปกติหรือต่ำมาก
4、การตรวจชิ้นเนื้อ
การเจาะชิ้นเนื้อและนำไปตรวจพยาธิวิทยาจะสามารถแยกแยะโรคต่อมลูกหมากโตกับโรคมะเร็งต่อมลูกหมากได้อย่างแม่นยำ หากผู้ป่วยมีอาการดังต่อไปนี้ควรพิจารณาเข้ารับการตรวจชิ้นเนื้อ:
-พบก้อนเนื้อที่มีลักษณะน่าสงสัยขณะทำการตรวจผ่านรูทวาร ไม่ว่าค่า PSA จะอยู่ในระดับใดก็ตาม
-พบสิ่งผิดปกติที่น่าสงสัยในระหว่างการตรวจอัลตราซาวน์หรือ MRI ไม่ว่าค่า PSA จะอยู่ในระดับใดก็ตาม
-PSA 4-10ng/ml, f/t (free/totalPSA) อยู่ในระดับที่น่าสงสัยหรือPSAD (PSA ความหนาแน่น) อยู่ในระดับที่น่าสงสัย
ข้อผิดพลาดที่พบได้บ่อยที่ควรรู้
1. รับประทานมะเขือเทศเป็นประจำสามารถป้องกันโรคมะเร็งต่อมลูกหมากได้?

ไลโคปืนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพในการกำจัดอนุมูลอิสระออกจากร่างกายได้ ในอินเตอร์เน็ตมีบทความที่กล่าวว่าการรับไลโคปีนเข้าสู่ร่างกายนั้นสามารถช่วยป้องกันการเกิดของโรคมะเร็งต่อมลูกหมากได้ ในความจริงแล้ว จากการศึกษาโดยการตรวจเลือดผู้ชายกว่า 3,000 คนหลังได้รับไลโคปีนพบว่าไลโคปีนนั้นไม่มีได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเกิดของโรคมะเร็งต่อมลูกหมากที่แน่ชัด
2. ค่า PSA สูงจะต้องเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมากแน่ๆ?
ไม่เสมอไป นอกจากโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก โรคต่อมลูกหมากอักเสบ โรคต่อมลูกหมากโตหรือแม้กระทั่งการนวดต่อมลูกหมากสามารถทำให้ค่า PSA สูงขึ้นได้เช่นกัน หรือผู้ป่วยบางท่านเกิดมาก็มีค่าPSA ที่สูงมากกว่าปกติอยู่แล้ว ดังนั้นค่า PSA เป็นเพียงตัวช่วยให้แพทย์ทำการวินิจฉัยว่าผู้ป่วยควรเข้ารับการตรวจชิ้นเพื่อประเมินว่าเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมากหรือไม่
3. แอนโดรเจนเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก?
แอดโดนเจนไม่มีความเกี่ยวข้องกับโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก เนื่องจากฮอร์โมนเพศชายไม่สามารถเข้าสู่นิวเคลียส และกระตุ้นการเติบโตของเซลล์ได้ จึงไม่สามารถกระตุ้นให้เกิดการสร้างเซลล์มะเร็งได้ และปัจจุบันก็ยังไม่มีหลักฐานยืนยันแน่ชัดว่าระดับฮอร์โมรเพศชายนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับการโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
เราจะสามารถป้องกันโรคมะเร็งต่อมลูกหมากได้อย่างไร?
- หลีกเลี่ยงอาการมัน รับประทานอาหารประเพศถั่วและผัก และดื่มชาเขียวเยอะๆ
- สร้างความสมดุลทางโภชนาการ ไม่ควรรับประทานเนื้อสัตว์มากเกินไป โดยเฉพาะสัตว์เนื้อแดง เช่นเนื้อหมู และเนื้อวัว
-ไม่สูบบุหรี่และจำกัดปริมาณการดื่มแอลกอฮอร์
- ออกกำลังเป็นประจำ
- รับประทานอาหารเสริมจำพวกซิลีเนียมและวิตตามินดี วิตตามินอีในปริมาณที่เหมาะสม
-การรักษาโรคต่อมลูกหมากทั่วไปเช่น ต่อมลูกหมากอักเสบ ต่อมลูกหมากโตในระยะเริ่มต้นสามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากได้
-
โรงพยาบาลมะเร็งเฉพาะทางแห่งชาติ
-
โรงพยาบาลมะเร็งที่ได้รับรองมาตรฐาน JCI ระดับนานาชาติ
-
ศูนย์ฝึกอบรมการรักษาด้วยความเย็นแห่งเอเชีย
-
ศูนย์ชีวการแพทย์กว่างโจวสถาบันวิทยาศาสตร์จีนและเวชศาสตร์ปริวรรตสถาบันสุขภาพ